Google

Thursday, October 22, 2009

Italy : Parliament

อิตาลี : รัฐสภา

ฝ่ายนิติบัญญัติที่ประกอบด้วยสองสภาของสาธารณรัฐประชาธิปไตยอิตาลีที่จัดตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1948 ในการเลือกตั้งโดยตรง และยึดหลักสากลนิยมนั้น พลเมืองอิตาลีที่มีอายุเกินกว่า 18 ปีจะเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในขณะที่พลเมืองอิตาลีที่มีอายุเกิน 25 ปีก็จะทำการเลือกตั้งวุฒิสมาชิก สมาชิกของสภาผู้แทนราษฎร (สภาล่าง) คนหนึ่ง ๆ ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้แทนของประชากรจำนวน 80,000 คน หรือ มากกว่านั้น จะต้องมีอายุ 19 ปีและจะอยู่ในตำแหน่งวาระละ 5 ปี ส่วนวุฒิสมาชิกจะได้รับการเลือกตั้งในแต่ละเขตจาก 20 เขตทั่วประเทศ วุฒิสมาชิกแต่ละคนจะเป็นผู้แทนของประชากรจำนวน 200,000 คน หรือมากกว่านั้น จะต้องมีอายุอย่างน้อย 40 ปี และจะอยู่ในตำแหน่งวาระละ 5 ปี สมาชิกสภานิติบัญญัติเหล่านี้มีลักษณะเป็นระบบหลายพรรคเหมือนในระบบของฝรั่งเศสและระบบของเยอรมนีจะถูกจัดเป็นกลุ่มพรรคในรัฐสภา ซึ่งเป็นพื้นฐานสำหรับเป็นสมาชิกในคณะกรราธิการสามัญนิติบัญญัติต่างๆ โครงสร้างของคณะกรรมาธิการจะคู่ขนานไปกับกระทรวงของรัฐบาลต่างๆ ร่างรัฐบัญญัติจะเสนอได้โดยรัฐบาล โดยสมาชิกของแต่ละสภา หรือโดยกระบวนการที่เรียกว่าการริเริ่ม (อินนิทิเอทิฟ) ร่างรัฐบัญญัติจะต้องผ่านทั้งสองสภาจึงจะเป็นกฎหมายได้ คณะกรรมาธิการในแต่ละสภาสามารถผ่านร่างรัฐบัญญัติได้เว้นแต่สมาชิกหนึ่งในสิบของสมาชิกในคณะกรรมาธิการจะกำหนดว่ารัฐบัญญัตินั้นจะต้องผ่านสภาแบบเต็มคณะ ในกรณีที่เกิดการแย้งกันระหว่าง 2 สภา ร่างรัฐบัญญัตินั้นจะเดินทางไปมาระหว่างสองสภาจนกว่าจะบรรลุฉันทามติ หรือจนกว่าจะมีการยุบสภา รัฐสภาสอกจากจะมีหน้าที่ทางนิติบัญญัติอันเป็นหน้าที่ปกติของตนแล้วก็ยังจะทำหน้าที่เลือกตั้งประธานาธิบดีแห่งอิตาลีและเลือกตั้งสมาชิกจำนวนหนึ่งในสามของศาลรัฐธรรมนูญและของสภาศาลสูง

ความสำคัญ ในระบบของอิตาลีจะไม่เหมือนกับระบบของอังกฤษตรงที่รัฐสภาของอิตาลีไม่มีเกียรติภูมิสูงส่ง การที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า (1) ประชาชนอิตาลีไม่สนใจการเมือง (2) รัฐสภาอิตาลีไม่มีภาวะผู้นำ (3) ไม่สามารถควบคุมระบบบริหารรัฐการและ (4) ไม่สามารถดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญได้ (5) มีแนวโน้มที่จะตรากฎหมายโดยคณะกรรมาธิการและลงคะแนนเสียงลับ (6) ขาดการริเริ่มจากรัฐสภา (7) ขาดวินัยในพรรค (8) ขาดฝ่ายค้านที่มีประสิทธิผล มีพรรคการเมืองประมาณ 12 พรรค มีผู้แทนในรัฐสภาโดยมีพรรคคริสเตียนเดโมแครตและพรรคคอมมิวนิสต์เป็นพรรคการเมืองใหญ่ที่สุด ในความหมายของรัฐสภาแบบคลาสสิคนั้น ประธานคณะรัฐมนตรี(นายกรัฐมนตรี) และสมาชิกของคณะรัฐมนตรีจะต้องรับผิดชอบต่อฝ่ายนิติบัญญัติ และรัฐบาลจะต้องลาออกหากไม่ได้รับความไว้วางใจในสภาใดสภาหนึ่ง นับแต่ปี ค.ศ. 1948 เป็นต้นมา รัฐบาลชุดต่าง ๆ จะล้มอยู่บ่อย ๆ โดยที่ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญในแนวทางหรือโครงการแต่อย่างใด

No comments:

Post a Comment